Skip to main content

สำนักงานแรงงาน จังหวัดยะลา

สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและแรงงาน ไตรมาส 3 (กรกฎาคม-กันยายน) ปี 2554

pll_content_description

 

บทสรุปผู้บริหาร

สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและแรงงาน ไตรมาส 3 (กรกฎาคม-กันยายน) ปี 2554 มีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้

สภาพทั่วไป

                จังหวัดยะลาเป็นจังหวัดที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทย มีเนื้อที่ประมาณ 4,521.078 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2,825,673.75 ไร่ เป็นจังหวัดเดียวในภาคใต้ที่ไม่มีพื้นที่ติดต่อกับทะเล

                 แบ่งการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ คือ อำเภอเมืองยะลา อำเภอเบตง อำเภอบันนังสตา อำเภอรามัน อำเภอยะหา อำเภอธารโต อำเภอ    กาบัง และอำเภอกรงปินัง

                เมื่อเปรียบเทียบขนาดพื้นที่ของแต่ละอำเภอแล้วปรากฏว่า อำเภอเบตง มีพื้นที่มากที่สุด คือ ประมาณ 1,328.001 ตารางกิโลเมตร และอำเภอกรงปินัง มีพื้นที่น้อยที่สุด คือประมาณ 185 ตารางกิโลเมตร

                ภูมิประเทศโดยทั่วไปของจังหวัดยะลามีลักษณะเป็นภูเขา เนินเขา และหุบเขา ตั้งแต่ตอนกลางจนถึงใต้สุดของจังหวัด มีที่ราบบางส่วน ทางตอนเหนือของจังหวัด ได้แก่ บริเวณที่ราบแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรีไหลผ่าน อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางถึงสูงมาก โดยเฉลี่ยระหว่าง 100 – 200 เมตร     พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยป่าดงดิบ และสวนยางพารา มีเทือกเขาที่สำคัญอยู่ 2 เทือกเขา คือ เทือกเขาสันกาลาคีรี เริ่มจากอำเภอเบตง เป็นแนวยาวกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทย กับประเทศมาเลเซียและเทือกเขาปิโล  ซึ่งเป็นเทือกเขาอยู่ภายในจังหวัด ในเขตตำบลบุดี บันนังสาเรง ของอำเภอเมืองยะลา อำเภอกรงปินัง และอำเภอรามัน

สภาพเศรษฐกิจ

                 เศรษฐกิจจังหวัดยะลา ปี 2551 พิจารณาจากผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ณ ราคาประจำปี มีมูลค่าเท่ากับ 35,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 31,365 ในปีที่ผ่านมา เท่ากับ 4,478 ล้านบาท

                อัตราการขยายตัวของมูลค่าเพิ่ม   ณ ราคาคงที่ หดตัวร้อยละ 6.8 จากที่ขยายตัว ร้อยละ 4.0    ในปีที่ผ่านมาโดยการผลิตภาคเกษตร หดตัว ร้อยละ 17.7 จากที่ขยายตัว  ร้อยละ 4.6 ในปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากสาขาเกษตรกรรม   การล่าสัตว์ และการป่าไม้ หดตัวร้อยละ 17.7 และสาขาประมงหดตัวร้อยละ 20.3 ส่วนภาคนอกเกษตร ขยายตัวร้อยละ 2.6 ชะลอตัวจากที่ขยายตัว ร้อยละ 3.6 ในปีที่ผ่านมาเนื่องจากสาขาบริการด้านอสังหาริมทรัพย์สาขาการบริหารราชการฯ ซึ่งเป็นสาขาที่สำคัญของภาคนอกเกษตร ขยายตัวร้อยละ 6.9 , 5.6 และ4.6 ตามลำดับ

ภาคเกษตร : การผลิตภาคเกษตร หดตัวร้อยละ 17.7 จากที่ขยายตัวร้อยละ 4.6 ในปีที่ผ่านมา มูลค่าเพิ่ม ณ ราคาประจำปีของการผลิต   ภาคเกษตรในปี 2551 เท่ากับ 18,122 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 14,685 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา เท่ากับ 3,437 ล้านบาท

นอกภาคเกษตร : การผลิตนอกภาคเกษตรชะลอตัว ร้อยละ 2.6 จากที่ขยายตัวร้อยละ 3.6 ในปีที่ผ่านมา มูลค่าเพิ่ม ณ ราคาประจำปีของการผลิตภาคนอกเกษตรในปี 2551 เท่ากับ 17,721 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 16,680 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา เท่ากับ 1,041 ล้านบาท

ผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัว (GPP per Capita): ค่าเฉลี่ยต่อหัวของประชากร ในปี 2551เท่ากับ 75,778 บาทต่อปี เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 12.6

สถานการณ์ด้านแรงงาน

ประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปในจังหวัดยะลา มีจำนวน 371,967 คน ซึ่งเป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน 262,192 คน ผู้มีงานทำ 261,302 คน ผู้ว่างงาน 890 คน

                การมีงานทำ ผู้มีงานทำในจังหวัดยะลา   มีจำนวน 261,302 คน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา       (ไตรมาส 1 ปี 2554 คือ 258,987 คน) ส่วนใหญ่ทำงานในภาคเกษตร จำนวน 168,541 คน (ร้อยละ 64.5) ทำงานนอกภาคเกษตร(ร้อยละ 35.5) โดยทำงานเป็นพนักงานบริการ พนักงานในร้านค้า และตลาด มากที่สุด จำนวน 46,229 คน(ร้อยละ 17.7) รองลงมาคือเป็นผู้ประกอบวิชาชีพด้านต่าง ๆ จำนวน 12,542 คน(ร้อยละ 4.8) และผู้มีงานทำส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับประถมศึกษา จำนวน 72,372 คน (ร้อยละ 27.7)

                การว่างงาน จังหวัดยะลา มีผู้ว่างงานประมาณ 890 คน หรือมีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.3 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา (ไตรมาส 1 ปี 2554 มีจำนวนผู้ว่างงาน 599 คน หรือร้อยละ 0.2) และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีที่แล้ว พบว่า อัตราการว่างงานลดลงเท่ากับร้อยละ 0.3 (ไตรมาส 2 ปี 2553 มีจำนวนผู้ว่างงาน 1,477 คน หรือร้อยละ 0.6) โดยผู้ว่างงานไตรมาสนี้ส่วนใหญ่เป็นชาย จำนวน 714 คน และหญิง จำนวน 175 คน

                การบริการจัดหางานในประเทศ ในช่วงไตรมาสที่ 2 (เมษายน-มิถุนายน) ปี 2554 นายจ้าง / สถานประกอบการได้แจ้งตำแหน่งงานว่าง จำนวน 1,628 อัตรา ลดลงร้อยละ 24.0 จากไตรมาสที่ผ่านมา (ไตรมาส 1 ปี 2554 จำนวน 2,141 อัตรา) โดยมี    ผู้สมัครงาน 1,623 คน และการบรรจุงาน จำนวน 494 คน มีอัตราบรรจุงาน ต่อตำแหน่งงานว่างร้อยละ 30.3 ส่วนตำแหน่งงานว่าง ตามระดับการศึกษาที่ต้องการสูงสุด คือ  ระดับมัธยมศึกษามีความต้องการ ร้อยละ 41.9 (683 อัตรา) รองลงมาเป็นระดับปวช.คือ ร้อยละ 17.4(284อัตรา)สำหรับอาชีพที่มีการบรรจุงานมากที่สุด คือ ประเภทอาชีพพนักงานบริการ พนักงานขายในร้านค้าและตลาด ร้อยละ 44.3 (219 คน)และอุตสาหกรรมที่มีตำแหน่งงานว่างมากที่สุด คือ การขายส่ง การขายปลีกฯ ร้อยละ 40.2 (655 อัตรา)

            อุปทานของจังหวัดยะลา พบว่า    ในปี 2554 มีอุปทานรวมซึ่งเป็นแรงงานใหม่ 98,923 คน และใน ปี 2563 จะลดลงเล็กน้อยเหลือ 97,556 คน  สาเหตุหลักเกิดจากมีนักเรียนวัยเรียนที่เข้าสู่ระบบการศึกษาน้อยลง  จำนวนอุปทานจะปรากฏให้เห็นมากที่สุดที่ระดับการศึกษา ม.6 จำนวน 32,587 คน ซึ่งมีข้อสังเกตว่า ยังมีนักเรียนที่จบการศึกษาและไม่เรียนต่อในระดับจังหวัดอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะระดับ ม.6 มีผู้จบการศึกษาและต้องการออกมาทำงานถึง 3,096 คน จำนวนผู้จบการศึกษาและเข้าสู่ตลาดแรงงาน ในระดับ ปวส./อนุปริญญา มีถึง 2,267 คน สูงกว่าจำนวนอุปทานระดับ ปวช.

                เมื่อเปรียบเทียบอุปสงค์กับอุปทานตามระดับการศึกษา พบว่า ทุก ๆ ปี (2554-2563) เศรษฐกิจของจังหวัดยะลาไม่สามารถจะดูดซับอุปทานของจังหวัดได้หมดทำให้เกิดอุปทานส่วนเกิน (Surplus Labor) ถึง 94,923 คนในปี 2554 แรงงานบางส่วนก็ย้ายถิ่น (Migrate) ไปหางานทำยังจังหวัดอื่นๆ

                แรงงานต่างด้าว ที่เข้าเมืองโดยถูกต้องตามกฎหมายและได้รับอนุญาตให้ทำงาน ข้อมูลเดือนกันยายน 2554 มีจำนวน 98 คน แรงงานต่างด้าวส่วนใหญ่เป็นประเภทชั่วคราว จำนวน  77 คน และแรงงานต่างด้าวประเภทมาตรา 12 (ยกเว้นมติ ครม.) จำนวน 21 คน โดยแรงงานต่างด้าวสัญชาติจีน มีมากที่สุด     จำนวน 52 คน หรือร้อยละ 27.4 และรองลงมาคือสัญชาติฟิลิปปินส์ จำนวน 38 คน (ร้อยละ 20.0)

                สำหรับแรงงานต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2553 เป็นแรงงานที่ได้รับอนุญาตให้มาทำงานเป็นการชั่วคราว 3 สัญชาติ คือ พม่า ลาว กัมพูชา เพื่อทดแทนการขาดแคลนแรงงานในจังหวัดยะลา     มีจำนวนทั้งสิ้น 2,883 คน    ลดลงกว่าไตรมาสที่ผ่านมา (ไตรมาส 2 ปี 2554 จำนวน 1,321 คน) โดยสัญชาติพม่า     มีมากที่สุด คือ ร้อยละ 89.3 (2,575 คน) รองลงมาเป็นสัญชาติลาว มีจำนวน 271 คน (ร้อยละ 9.4) และสัญชาติกัมพูชา มีจำนวน 37 คน(ร้อยละ 1.3)

                แรงงานไทยในต่างประเทศ ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2554 แรงงานไทยจากจังหวัดยะลาที่ขออนุมัติเดินทางไปทำงานต่างประเทศ มีจำนวน 13 ราย พบว่า ไปโดยวิธี Re-Entry ส่วนภูมิภาคที่แรงงานไทยไปทำงานส่วนใหญ่ คือ ในภูมิภาคเอเซีย จำนวน 9 คน คิดเป็น ร้อยละ 69.2 และภูมิภาคตะวันออกกลาง    จำนวน 4 คน คิดเป็น   ร้อยละ 30.8

             การพัฒนาศักยภาพแรงงานในจังหวัดยะลา ไตรมาสนี้  มีผู้เข้ารับการฝึกเสริมทักษะฝีมือแรงงาน จำนวน 428 คน เป็นกลุ่มอาชีพช่างอุตสาหกรรมศิลป์ จำนวน 201 คน(ร้อยละ 47.0) ธุรกิจและบริการ            จำนวน 100 คน(ร้อยละ 23.4) ช่างก่อสร้าง จำนวน 72 คน (ร้อยละ 16.8) เกษตรอุตสาหกรรม จำนวน 30 คน       (ร้อยละ 7.0) และช่างไฟฟ้าฯ จำนวน 25 คน(ร้อยละ 5.8) การฝึกยกระดับฝีมือแรงงาน มีผู้เข้ารับฝึก จำนวน 319 คน เป็นกลุ่มอาชีพช่างอุตสาหกรรมศิลป์ จำนวน 178 คน(ร้อยละ 55.8) กลุ่มอาชีพช่างก่อสร้าง       จำนวน 101     (ร้อยละ 31.7) และกลุ่มธุรกิจและบริการ จำนวน 40 คน (ร้อยละ 12.5)

                การคุ้มครองแรงงาน จังหวัดยะลามีการตรวจสถานประกอบการทั้งสิ้น 40 แห่ง  ลดลงร้อยละ 56.0     จากไตรมาสที่ผ่านมา (ไตรมาส 1 ปี 2554 จำนวน 91 แห่ง) ไตรมาสนี้มีลูกจ้างที่ผ่านการตรวจ จำนวน 1,084 คน  ซึ่งสถานประกอบการที่เข้ารับการตรวจส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบการขนาด 1-4 คน มีจำนวน 19  แห่ง คิดเป็นร้อยละ 47.5 ของสถานประกอบการที่ผ่านการตรวจทั้งหมด โดยมีสถานประกอบการปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย จำนวน 40 แห่ง(ร้อยละ 100)

                การตรวจความปลอดภัยในการทำงาน   มีการตรวจความปลอดภัยในสถานประกอบการทั้งสิ้น 19 แห่ง ลดลง ร้อยละ47.2จากไตรมาสที่ผ่านมา (ไตรมาส 1 ปี 2554 จำนวน 36 แห่ง) ไตรมาสนี้มีลูกจ้างที่ผ่านการตรวจ จำนวน 1,289 คน พบว่า มีสถานประกอบการปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย จำนวน 19 แห่ง  (ร้อยละ 100)

                การประสบอันตราย / เจ็บป่วยจากการทำงาน ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2554 จังหวัดยะลา มีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน จำนวน 57 คนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 15.8 จากไตรมาสที่ผ่านมา (ไตรมาส 2 ปี 2554 จำนวน 48 คน) โดยประเภทของ ความร้ายแรง พบว่า ส่วนใหญ่จะหยุดงานเกิน 3 วัน จำนวน 32 คน  (ร้อยละ 56.1) หยุดงานไม่เกิน 3 วัน จำนวน 25 คน    (ร้อยละ 43.9)

                การเลิกจ้างแรงงาน สถานประกอบ-กิจการในจังหวัดยะลา ที่เลิกกิจการมีจำนวน 12 แห่ง เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา   (ไตรมาส 2 ปี 2554 จำนวน 4 แห่ง) ไตรมาสนี้    มีผู้ถูกเลิกจ้าง จำนวน 42 ราย

                การประกันสังคม จังหวัดยะลามีสถานประกอบการที่ ขึ้นทะเบียนประกันสังคม จำนวน 1,477 แห่ง ผู้ประกันตนทั้งสิ้น 19,522 คน    และมีสถานพยาบาล ในสังกัดประกันสังคมที่เป็นสถานพยาบาลของรัฐบาล จำนวน 2 แห่ง

                จำนวนผู้ใช้บริการกองทุนประกันสังคม ประเภทประโยชน์ทดแทน ไตรมาสนี้มีจำนวน 22,543 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 จากไตรมาสที่ผ่านมา (ไตรมาส 2 ปี 2554 จำนวน 22,157 คน) ประเภทประโยชน์ทดแทนที่ใช้บริการสูงสุด ได้แก่ กรณีสงเคราะห์บุตร มีจำนวน 19,479 คน หรือร้อยละ 86.4 ของผู้ใช้บริการทั้งหมด สำหรับการจ่ายเงินตามประเภทประโยชน์ทดแทน พบว่า การจ่ายเงินกรณีสงเคราะห์บุตร มีการจ่ายเงินสูงสุด ถึง 9,634,950 บาท หรือร้อยละ 39.8 ของเงินประโยชน์ทดแทนที่จ่าย(จำนวนเงินที่จ่ายตามประเภทประโยชน์ทดแทนทั้งหมด 24,205,638.31 บาท)

TOP